วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เป็นมะเร็ง ทำประกันชีวิตได้ไหม

ถ้าพบว่า เป็นมะเร็ง ทำประกันชีวิตได้ไหม

คำตอบคือ ได้ ครับ  แต่ได้บางประเภทเท่านั้น  คุณคงจะเคยได้ยินใน TV เค้าบอกว่า ไม่ถามสุขภาพสักคำ  คุณจะทำได้ก็พวกนั้นแหละครับ   แต่ถ้าจะทำแบบที่คนปกติทำ มันยากครับ  ผมแนะนำให้ ทำประกันชีวิต ก่อนที่จะเป็นครับ  เพราะคนเกิบทุกคน เป็นมะเร็งครับ  เพียงแต่ ใครจะตายก่อนที่ออกอาการเท่านั้นครับ   อาจจะเกิดอุบัตเหต ตายไปก่อน   คนที่เป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็อยากจะทำประกันชีวิต   แต่ทำไมไม่ทำไว้ก่อนละครับ  ปีละไม่กี่บาท ซื้อของกินแพงกว่านี้อีกครับ  ผมเองก็ทำแบบปีละ 4500  บาทครับ   ตายแล้วได้เงิน  คุ้มครองโรคร้าย 50 โรค  ครับ    เงินเพียงเท่านั้น ผมว่าผมจ่ายได้ครับ ควรเลือกแบบประกันชีวิตให้เหมาะสมกับตัวเราให้มากที่สุดนะครับ  ถ้าไม่รู็จะทำประกันชีวิตแบบไหนดี  โทรมาคุยกันครับ  เดี่ยวจัดให้เลยครับ  


ป่วยแล้วทำประกันได้ไหม ??

ป่วยแล้วทำประกันได้ไหม ?? 

ตอบตรงๆเลยว่าได้  แต่ ทำได้แบบมีข้อจำกัด  ผมพูดตรงๆได้เลยครับ  ไม่มีปิดบัง ไม่อยากให้โดนหลอกกันครับ  ประกันบางประเภท ก็ทำได้ บางประเภทก็ทำไม่ได้ครับ  เช่น ถ้าคุณเป็นเบาหวาน หรือ โรคหัวใจ  คุณจะมาทำประกันสุขภาพ ที่จะนอนพักรักษาตัวแล้วเบิกได้ ก็ยากครับ  คุณทำได้ แต่ก็มีเงือนไขบางอย่างครับ หรือซื้อได้แค่บางประเภทครับ  แต่รายละเอียดต้องโทรมาคุยกันครับ เพราะ แต่ละคนเงือนไขก็ต่างกันออกไปครับ  โรคที่คนไทยนิยมเป็น

เบาหวาน
ความดันสูง
ไขมันในเส้นเลือด
หลอดเลือดหัวใจ
ไตวาย

คุณควรทำประกัน ก่อนที่คุณจะเป็นโรคพวกนี้นะครับ

เบาหวาน  โรคที่คุณก็เป็นได้
เบาหวานคืออะไร  
เบาหวานเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอ หรือร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยกว่าปกติ จึงไม่สามารถเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตรวมถึงโปรตีนและไขมันบางส่วนได้อย่างเหมาะสม ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติและเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง เช่น หัวใจวาย ตาบอด ไตวาย อัมพฤกษ์ อัมพาตและโรคติดเชื้อ เป็นต้น  
เบาหวานจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้  
เบาหวานชนิดที่ หรือเบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน ซึ่งเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอ เบาหวานชนิดนี้ส่วนใหญ่จะพบในเด็กและวัยรุ่น ประมาณ 10% ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมดเป็นเบาหวานชนิดที่ 1
เบาหวานชนิดที่ 2 หรือเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน ซึ่งตับอ่อนของผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ส่วนใหญ่สร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอ แต่ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยกว่าปกติ
ประมาณ 90% ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมดเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
โรคแทรกซ้อนของเบาหวานมีอะไรบ้าง  


ตา อาจเป็นต้นกระจกก่อนวัย ประสาทตาหรือจอตาเสื่อม และอาจทำให้ตาบอดในที่สุด  


ระบบประสาท ผู้ป่วยอาจะเป็นปลายประสาทอักเสบ มีอาการชาหรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือปลาย  


เท้า ซึ่งมักจะทำให้มีแผลเกิดขึ้นที่เท้าได้ง่ายและอาจลุกลามจนเท้าเน่า กระเพาะปัสสาวะไม่ทำงาน ทำให้กลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือไม่มีแรงเบ่งปัสสาวะ กระเพาะอาหารไม่ทำงาน มีอาการจุกเสียด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเดิน โดยเฉพาะเช้ามือถึงก่อนเที่ยง ผู้ป่วยชายมักมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ  


ไต มักเกิดภาวะไตวาย มีอาการบวม ซีด ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานที่พบได้ค่อนข้างบ่อย  


ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ถ้าหลอดเลือดแดงที่เท้าแข็งและตีบ เลือดไปเลี้ยงเท้าไม่พออาจทำให้เท้าเย็น เป็นตะคริว ปวดขณะเดินมากๆ หรืออาจทำให้เป็นแผลหายยากหรือนิ้วเท้าเป็นเนื้อตายเน่า 


ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย เช่น วัณโรคปอด กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ กลาก โรคเชื้อชา เป็นฝีหรือพุพองบ่อย นิ้วเท้าหรือช่องคลอดอักเสบ เป็นต้น  


แผลที่เท้า เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีภาวะปลายประสาทอักเสบ และภาวะขาดเลือดทำให้เท้าชาเกิดแผลได้ง่ายและหายยากหรือเป็นเนื้อตายเน่า บางครั้งจำเป็นต้องตัดนิ้วหรือตัดขา ทำให้เกิดภาวะพิการได้  

ทำไมผู้ป่วยเบาหวานมักเสียชีวิตจากโรคหัวใจ 
ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในอายุที่น้อยกว่าและรุนแรงกว่า เนื่องจากระดับน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นทำให้ผนังหลอดเลือดแดง ทั้งรายการเกิดความผิดปกติและเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานมักจะมีโรคอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย เช่น โรคไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เป็นต้น  
โรคเหล่านี้จะเร่งให้โครงสร้างและสภาพของหลอดเลือดเกิดความผิดปกติมากขึ้นและเร็วขึ้น หลอดเลือดหัวใจจึงเกิดการอักเสบ ทำให้คราบไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือดมีการแตกออก ซึ่งจะทำให้เกิดลิ่มเลือดมาอุดตันหลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลัน ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดหัวใจตีบจึงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของผู้ป่วยเบาหวาน
อาการโรคหัวใจในผู้ป่วยเบาหวานจะแตกต่างจากผู้ป่วยโรคหัวใจทั่วไปอย่างไร  
สำหรับอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีพในผู้ป่วยเบาหวานอาการเจ็บหน้าอกมักจะไม่ชัดเจนหรือไม่มีเลย เนื่องจากประสาทรับความรู้สึกในผู้ป่วยเบาหวานเสื่อมสภาพลง จึงมักจะมีแค่อาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ แน่น จุกเสียดหน้าอกเหมือนอาหารไม่ยอม วิงเวียน ตัวเย็น เหงื่อออก ใจสั่นรู้สึกคล้ายจะเป็นลม อาการเหล่านี้อาจมีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างพร้อมกันและอาจเกิดขึ้นในเวลาใดก็ได้  

สนใจทำประกัน ก่อนเป็นเบาหวาน  0813942485 ศุภวัตร


ขอบคุณข้อมูล  pk-pharma.com/โรคเบาหวาน.html

ถ้าคุณไม่อยู่ ใครจะดูแลครอบครัว ค่าเรียนลูก ค่าส่งรถ ค่าบ้าน

ถ้าคุณไม่อยู่ ใครจะดูแลครอบครัว ค่าเรียนลูก ค่าส่งรถ ค่าบ้าน
สมัยนี้ค่าใช้จ่ายรอคุณอยู่รอบตัว ถ้าคุณออกไปทำงานแล้วไม่มีโอกาสได้กลับมาบ้านอีก  คุณจะทำอย่างไร   เดี๋ยวนี้แบบประกันชีวิต มีให้เลือกมากมายหลายแบบ จ่ายมาก จ่ายน้อย คุ้มครองมาก น้อยแล้วแต่เลือก  คุณควรเลือกซื้อแบบประกันที่เหมาะสมกับคุณ ไม่ควรจ่ายมากเกินกำลัง ควรเลือกที่คุณจ่ายไหว ไม่เดือดร้อน  เพราะยังไงก็แล้วแต่ เงนิที่คุณจ่ายไป  จะตกเป็นของคนข้างหลังคุณแน่นอน

ประกันที่นิยมมากที่สุด
1 ประกันแบบเงินฝาก
2 ประกันสุขภาพ
3 ประกันแบบตายแล้วได้เงิน(จ่ายน้อย ได้มาก)


ทำไมท่านต้องรีบทำตั้งแต่ตอนนี้  จากประสบการณ์ตรงเลยนะครับ

เมื่อคนเราอายุเพิ่มขึ้นโรคก็จะตามมาด้วยเช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน หัวใจ
เมื่อคุณเป็นโรคพวกนี้แล้ว โอากาสจะเลือกแบบประกันก็น้อยมากเช่นกันครับ ถึงทำได้ก็มีไม่กี่แบบที่คุณจะทำได้  นี่คือเหตผลหลักว่าทำไมต้องรีบทำประกันไว้ก่อน

พ่อผม ทำประกันก่อนจะเป็น เบาหวาน หัวใจ ไต  ที่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจทำประกันครับ
เพราะถ้าพ่อผมไม่ทำประกันเอาไว้ คนหมดเงินไปเยอะในการรักษาครับ


วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อาชีพที่ควรทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ

อาชีพที่ควรทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ       

          พ่อค้า แม่ค้า แม่บ้าน พนักงานราชการ พนักงานบริษัท แท็กซี่ คนขับสามล้อ ลูกจ้างทั่วไป คนรายได้น้อย คนขับรถ โฟแมน ผู้รับเหมาก่อสร้าง   ล้วนแต่ ควรทำประกันชีวิตทั้งสิน เพราะ   ทุกคน ต้องตาย  เพียงแต่ หลังจากการตายของคุณ คุณทิ้งอะไรไว้ให้คนข้างหลังบ้าง  นี่แหละที่สิ่งที่ต้องตัดสินใจว่า ควรทำหรือไม่ควรทำประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพ รวมถึงคนที่กำลัง ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ถ้าคุณตายไป อาจจะโดนยึดบ้าน หรือ ยึดรถ ก็ได้

         เงินแค่เดือนละ 2xx หรือปีละ ไม่เกิน 3,000 บาท เพียงเงินเท่านี้ คุณ กินข้าวมื้อเดียวก็แพงกว่าแล้ว

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คุณรู้วันตายของคุณไหม คุณหนีความตายได้ไหม



คุณรู้วันตายของคุณไหม คุณหนีความตายได้ไหม  ถ้าคิดว่าได้ ดูรูปด้านล่าง


 



 





ตารางการเสียชีวิต

  • หนีความตาย การเจ็บป่วย  ได้ไหม 
  • คุณ รู้วันตาย กำหนดวันตาย ของตัวคุณได้ไหม
  • ถ้าคุณตาย ลูกคุณจะกลายเป็นลูกกำพร้า   ภรรยาคุณจะกลายเป็นแม่มาย  แล้วพวกเค้าจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร
  • ถ้าคุณยัง ไม่ตาย แต่พิการ ป่วยหนัก ทำงานไมได้ ขายสมบัติมารักษาตัวจนหมด  (อิทธิ พลางกูล)
  • คุณคิดว่า เด็กกำพร้า แม่ม่าย  จะมีชีวิตแบบไหน เวลาที่ไม่มีใครดูแล
  • เด็กกำพร้า
    ภรรยาม่าย
            ไม่มีบ้านอยู่
           ไม่มีเงินผ่อนบ้าน
            ไม่มีเงินกินข้าว                   
           ไม่มีเงินส่งลูกเรียน
            ไม่มีเงินเรียนหนังสือ
           ไม่มีเงินผ่อนรถ
            ไม่มีคนปกป้อง
           ไม่มีเงินดูแลลูก
            เป็นเด็กไม่มีพ่อ
           ไม่มีเงินเลี้ยงตัวเอง
            ติดยาเสพติด


-          คุณจะหาเงินมาจากไหนให้พวกเค้าหลังจากที่ คุณตายไปแล้ว ?
  
ตัดสินใจยิ่งเร็ว ก็จะยิ่งจ่ายน้อย  แต่ ได้เงินเยอะเท่าเดิม
เช่น
อายุ 22 จ่าย 15 ปี ปีละ 4,000 หรือ วันละ 11 บาท เป็นเงิน 60,000 บาท   หยุดจ่ายอายุ 37  คุ้มครองถึง 99
ถ้าตายจะได้เงิน   165,700 บาท

อายุ 30 จ่าย 15 ปี ปีละ 4,800 หรือ วันละ 13.50 บาท เป็นเงิน 72,000 บาท  หยุดจ่ายอายุ 45  คุ้มครองถึง 99
ถ้าตายจะได้เงิน   165,700 บาท
 ***  แล้วจะรอให้จ่ายแพงไปทำไมครับ ***

                                                   
ประกันภัยประเภทนี้  เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย คุณจะไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้ แต่ส่วนใหญ่คือ เด็กกำพร้าและแม่ม่าย
(ผมทำงานประจำด้าน IT ไม่ได้มุ่งเน้นจะขายประกันเป็นหลัก ผมไม่จำเป็นต้องโกหกหรือหลอกให้คุณมาซื้อประกัน ผมขายเฉพาะคนที่สนใจจริงๆ และเห็นว่าการตายของคุณควรจะมีหลักประกันเพื่อคนข้างหลัง ผมเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพราะผมซื้อประกันเยอะจึงได้มาขายเองด้วย )

ระหว่าง ประกันชีวิต กับ ฝากธนาคาร

ถ้าต้องเลือกการทำประกันชีวิต กับการฝากเงินธนาคาร คุณจะเลือกอะไร
คำถามนี้ ไม่มีคำตอบที่ตายตัวครับ   ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของแต่ละคน  สำหรับผม ผมทำทั้งคู่ครับ ผมจะไม่แนะนำลูกค้าให้ทำประกันอย่างเดียวหรือเอาเงินมาทำประกันเพื่อให้ผมได้ค่าคอมมากๆ  มันเหมือนเป็นการหลอกลูกค้าครับ  แต่ถ้าถามว่าประกันชีวิตสำคัญไหม มันก็สำคัญครับ ผมแนะนำแบนี้นะครับ

อายุ   15 - 25  (สำหรับเงินออมทั้งหมด)

ประกันชีวิต               10  %
ประกันสุขภาพ          10  %
เงินสดออม               30  %
เงินลงทุน                  50  %


อายุ   26 - 35  (สำหรับเงินออมทั้งหมด)

ประกันชีวิต               35  %
ประกันสุขภาพ           5  %
เงินสดออม               20  %
เงินลงทุน                  40  %


อายุ   36 - 40  (สำหรับเงินออมทั้งหมด)

ประกันชีวิต               30  %
ประกันสุขภาพ           5  %
เงินสดออม               30  %
เงินลงทุน                  35  %


อายุ   41 - 50  (สำหรับเงินออมทั้งหมด) อายุช่วงนี้ถ้าออมมาตั้งแต่แรก จะได้รับเงินประกันคืนแล้วดังนั้นก็จะมีเงินก้อนมาออมใส่ธนาคารไว้เพื่อเอามาใช้จ่ายได้

ประกันชีวิต               45  %
ประกันสุขภาพ          20  %
เงินสดออม               20  %
เงินลงทุน                  15  %



อายุ   51 - 55  (สำหรับเงินออมทั้งหมด)  อายุช่วงนี้ถ้าออมมาตั้งแต่แรก จะได้รับเงินประกันคืนแล้วดังนั้นก็จะมีเงินก้อนมาออมใส่ธนาคารไว้เพื่อเอามาใช้จ่ายได้

ประกันชีวิต               60  %
ประกันสุขภาพ          20  %
เงินสดออม               10  %
เงินลงทุน                  10  %


อายุ   56 - 60  (สำหรับเงินออมทั้งหมด) อายุช่วงนี้ถ้าออมมาตั้งแต่แรก จะได้รับเงินประกันคืนแล้วดังนั้นก็จะมีเงินก้อนมาออมใส่ธนาคารไว้เพื่อเอามาใช้จ่ายได้

ประกันชีวิต               60  %
ประกันสุขภาพ          30  %
เงินสดออม                5  %
เงินลงทุน                   5  %


อายุ   > 60  (สำหรับเงินออมทั้งหมด)  อายุช่วงนี้ถ้าออมมาตั้งแต่แรก จะได้รับเงินประกันคืนแล้วดังนั้นก็จะมีเงินก้อนมาออมใส่ธนาคารไว้เพื่อเอามาใช้จ่ายได้

ประกันชีวิต               60  %
ประกันสุขภาพ          30  %
เงินสดออม               10  %
เงินลงทุน                   0  %

สำหรับผมจัดเอาไว้แบบนี้ครับ  และผมก็จะแนะนำลูกค้าแบบนี้ แต่ความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ  ดังนั้นมันจึงกำหนดตายตัวไม่ได้  ถ้ามีข้อสงสัยอยากปรึกษาโทรมาได้คับ ไม่คิดตัง ไม่ต้องซื้อประกันกับผมก็โทรมาได้นะ ยินดีครับ